ThaiView January 2006

รายงานผลการวิจัย “ThaiView3” คนกรุงเทพขอสูดอากาศบริสุทธิ์ เดินด้วยความปลอดภัย มีเวลากับครอบครัวมากขึ้น เป็นของขวัญปีใหม่ 2549

สมาคมวิจัยการตลาดแห่งประเทศไทยได้เปิดเผยผลสรุปการวิจัย ThaiView ครั้งที่ 3 จากผลการสำรวจพบว่าในปีใหม่นี้ สิ่งที่คนกรุงเทพมีความปรารถนาพิเศษสำหรับตนเองมากเป็นสามอันดับแรกคือ การมีเวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้น การซื้อบ้านอยู่อาศัย และ การมีเวลาท่องเที่ยวในประเทศ และสิ่งที่คนกรุงเทพต้องการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดในชีวิตในช่วงปีใหม่นี้คือ เพิ่มการใส่ใจดูแลครอบครัว รับผิดชอบในงานที่ตนเองทำมากขึ้น และเลิก บุหรี่ สุรา อบายมุขต่างๆ หากปฏิบัติได้ตามนี้ก็จะช่วยเสริมสร้างและพัฒนาสังคมไทยให้ไปในทางที่ดีขึ้น

“ส่วนสิ่งที่เป็นของขวัญที่คนกรุงเทพปรารถนาในปี 2549 นี้ สามอันดับแรก ได้แก่ ให้มีอากาศที่บริสุทธิ์ขึ้น จราจรไม่ติดขัด และมีความปลอดภัยในการดำรงชีวิตมากขึ้น” นางดารณี เจริญรัชต์ภาคย์ นายกสมาคมวิจัยการตลาดแห่งประเทศไทย และกรรมการผู้จัดการ บริษัทมาร์เก็ตไว้ส์ กล่าวเพิ่มเติม

ผลการสำรวจยังพบว่า ความมั่นใจในอนาคตทางการเงินของตนเองในอีก 12 เดือนข้างหน้า ตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง จาก 46% ในการศึกษาในไตรมาสที่ 3 ของปี 2548 มาอยู่ที่ 36% อย่างไรก็ตามคนกรุงเทพ มีความกังวลต่อสถานการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ลดลงจาก 31% เป็นเพียง 15% ในการศึกษาคราวนี้

“ผลการสำรวจเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมาพบว่า ระดับความสุขและความพอใจกับชีวิตความเป็นอยู่ในปัจจุบันใกล้เคียงกับการศึกษาไตรมาสที่แล้ว คือต้องการมีสุขภาพที่แข็งแรง และมีความมั่นคงทางการเงิน” ดร. ศศิวิมล สมิตติพัฒน์ กรรมการสมาคมวิจัยการตลาดแห่งประเทศไทย และ คันทรี่แมเนเจอร์ บริษัท เอคอร์น ประเทศไทย กล่าว

ในปี 2549 คนกรุงเทพมีความมั่นใจในสภาวะเศรษฐกิจของตนเองน้อยลง หลายคนเห็นพ้องว่า เวลานี้เป็นเวลาที่ไม่เหมาะสมในการจ่ายเงินสำหรับสินค้าและบริการ จากผลการสำรวจในเดือนธันวาคมพบว่า มีคนกรุงเทพถึง 57% ที่กล่าวว่าเวลานี้เป็นเวลาที่ไม่เหมาะในการจ่ายเงินสำหรับสินค้าและบริการ ซึ่งเป็นตัวเลขที่พุ่งขึ้นสูงจากคราวที่แล้วที่มีเพียง 48%

ในขณะที่สินค้าที่มีแนวโน้มการบริโภคมากขึ้นได้แก่สินค้าในหมวดที่เกี่ยวข้องกับการใช้พลังงานน้อยลง เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงาน หรือ พลังงานทดแทนอื่นๆ นอกจากนั้น แนวโน้มการบริโภคสินค้าในหมวดเทคโนโลยีมีแนวโน้มที่จะมีการบริโภคพุ่งสูงขึ้นเป็นอย่างมาก เช่น การใช้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค การใช้อินเตอร์เน็ต และการใช้กล้องถ่ายวิดีโอแบบดิจิตอลต่างๆ

อย่างไรก็ตามแนวโน้มการบริโภคในหมวดอาหารเครื่องดื่มแสดงให้เห็นถึงความสนใจเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น ซึ่ง 3 อันดับแรกที่มีแนวโน้มการบริโภคสูงขึ้น คือ อาหารที่ใช้วัตถุดิบธรรมชาติ น้ำดื่มบริสุทธิ์หรือน้ำแร่บรรจุขวด และนมพร้อมดื่ม ในขณะที่อาหารและเครื่องดื่มที่คนกรุงเทพมีแนวโน้มจะบริโภคน้อยลง 3 อันดับแรกคือ สินค้าประเภทยาสูบ บุหรี่ ซิการ์ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และน้ำอัดลม

ยวกับแนวโน้มพฤติกรรมการจัดสรรรายได้สำหรับเก็บออมในปี 2006 คนกรุงเทพมากที่สุดที่ 26% กล่าวว่า มีการวางแผนที่จะเก็บออมหรือลงทุนประมาณ 21-30% จากรายได้ทั้งหมด และคนกรุงเทพที่ 21% กล่าวว่า มีการวางแผนที่จะเก็บออมหรือลงทุนประมาณ 41-50% จากรายได้ทั้งหมด

ลักษณะของการเก็บออมและการลงทุนที่คนกรุงเทพส่วนใหญ่ใช้อยู่ในปัจจุบันคือ บัญชีออมทรัพย์ 91% ประกันชีวิตและสุขภาพ 40% แชร์ 19% บัญชีเงินฝากประจำ 15% เพชร/ทองคำ 13% และพันธบัตรรัฐบาล 10%

ตัวเลขเหล่านี้มาจากผลการวิจัย “ThaiView” โดยสมาคมวิจัยการตลาดแห่งประเทศไทย ซึ่งทำการสำรวจความคิดเห็นของคนกรุงเทพจำนวนประมาณ 500 คนจาก 18 เขต ในวันที่ 9-11 ธันวาคม 2548

เกี่ยวกับ “ThaiView” “ThaiView” เป็นการวิจัยรายไตรมาส ทำการสำรวจความคิดเห็นของคนกรุงเทพฯ 500 คนจาก 18 เขต ดำเนินการโดยสมาคมวิจัยการตลาดแห่งประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อทำการสำรวจแนวโน้มความพึงพอใจของคนกรุงเทพฯ ที่มีต่อคุณภาพชีวิต สภาวะทางการเงินในอนาคตอันใกล้ รวมทั้งความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาวะ ทางสังคมและเศรษฐกิจของประเทศไทย

เกี่ยวกับสมาคมวิจัยการตลาดแห่งประเทศไทย สมาคมฯเป็นนิติบุคคลที่ดำเนินการ โดยองค์กรที่เกี่ยวข้องกับ การวิจัยการตลาดและภาคธุรกิจ ในประเทศไทย มีวัตถุประสงค์ที่จะส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรมการวิจัยตลาด ยกระดับคุณภาพในการดำเนินงาน ตลอดจนควบคุมและคุ้มครองการประกอบวิชาชีพวิจัยการตลาด รวมถึงผู้ที่ใช้งานวิจัยการตลาด

โดย นางดารณี เจริญรัชต์ภาคย์ นายกสมาคมวิจัยการตลาดแห่งประเทศไทย ดร. ศศิวิมล สมิตติพัฒน์ กรรมการสมาคมวิจัยการตลาดแห่งประเทศไทย

Download File